การตรวจซ่อมแซมอุปกรณ์รวมทั้งวงจรไฟฟ้าที่ทรุดโทรม

การตรวจสอบซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วก็วงจรไฟฟ้าเป็นสิ่งจำเป็น เพราะเหตุว่าเมื่อพวกเราใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าไปนานๆย่อมมีการชำรุดทรุดโทรมเสียหาย ไม่ว่าจะเป็นการเสียหายที่เกิดขึ้นจากความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ การขาดวิชาความรู้ ขาดการดูแลใส่ใจ ถึงแม้ว่าจะเกิดขึ้นเองตามภาวะการใช้แรงงาน แต่ว่าเมื่อเกิดความเสื่อมโทรมขึ้นแล้ว พวกเราจำเป็นที่จะต้องรีบกระทำการปรับแต่งก่อนจะได้รับอันตรายต่อตัวผู้ใช้หรือต่อเงินทอง ดังเช่น การเกิดไฟฟ้าลัดวงจร การเกิดไฟไหม้ อื่นๆอีกมากมาย ด้วยเหตุนี้เพื่อผู้เรียนทราบกรรมวิธีปฏิบัติเพื่อนำไปใช้เพื่อสำหรับการขจัดปัญหาเท่าที่พวกเราสามารถปฏิบัติได้แล้ว ยังใช้ประโยชน์ให้เกิดผลดีในชีวิตประจำวัน และก็ยังสามารถช่วยเหลือคนอื่นๆได้ ซึ่งจะมีแนวทางดังนี้

  1. การสำรวจภาวะความเสื่อมโทรมของวงจรไฟฟ้า รวมทั้งอุปกรณ์ต่างๆ
  2. วิเคราะห์ปัญหาที่เกิดขึ้นของวงจรรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้า

3 .ดำเนินงานแก้ไขตามภาวะของความทรุดโทรม ขั้นตอนสำหรับการตรวจซ่อมแซมอุปกรณ์รวมทั้งวงจรไฟฟ้า มีแนวทางพิจารณาความเสื่อมโทรมของวัสดุอุปกรณ์รวมทั้งวงจรไฟฟ้าดังนี้

1.1 ถ้าเกิดสายไฟขาดหรือมีรอยฉีกให้ขาดควรจะกระทำการปรับปรุงแก้ไขโดยตัดและก็ต่อสายใหม่ ถ้าเกิดสายเก่าก็ให้เปลี่ยนแปลงสายใหม่แล้วก็กระทำต่ออย่างแน่นหนา

1.2 กรณีหลอดไฟไม่ติดหรือดับ อาจจะเกิดขึ้นเนื่องมาจากหลอดขาด ให้ทำเปลี่ยนแปลงใหม่ แม้กระนั้นถ้าหากไม่ขาดให้ลองตรวจสอบสวิทช์ไฟว่าเสีย สายขาด หรือมีการลัดวงจรหรือเปล่า ถ้าเกิดมีความเห็นว่าไม่สามารถที่จะปรับปรุงได้ ควรจะกระทำการแปลง หรือทำเช็ควงจรรวมทั้งไล่สายใหม่

1.3 กรณีปลั๊กไฟฟ้าหรือเต้ารับ ไม่มีไฟ สายบางครั้งก็อาจจะขาด อันเป็นผลมาจากการลัดวงจร หากตรวจเจอให้ต่อวงจรใหม่ให้เป็นระเบียบเรียบร้อยแต่ว่าหากไม่ขาดควรจะไปดูที่คัทเอ้าท์ และก็ฟิวส์ที่แผงควบคุม อาจเกิดขึ้นเนื่องจากฟิวส์ขาด หรือถ้าหากใช้เซอร์กิต เบรคเกอร์ ให้ทดลองสับสวิทช์ดูใหม่

1.4 หากไฟดับบ่อยครั้ง อันมีสาเหตุมาจากแผงควบคุมกระแสไฟฟ้าตัดไฟ ทดลองตรวจทานขนาดของฟิวส์ว่ามีขนาดเล็กไปไหมควรจะแปลงให้มีขนาดเหมาะสมกับการใช้แรงงานข้างในบ้านหรือสถานที่นั้นๆแม้กระนั้นถ้าเกิดไม่ใช่ ทดลองตรวจทานเครื่องมืออื่นๆตัวอย่างเช่น เต้ารับ สวิทช์ไฟหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังแทงใช้งานอยู่บางทีอาจกำเนิดความผิดแปลกหรือลัดวงจร ให้กระทำการปรับแต่งอย่างรวดเร็ว หรือถ้าหากตรวจเจอว่ามีไฟฟ้าเกินให้แจ้งต่อกฟภ. เพื่อจะได้ส่งข้าราชการมาทำปรับแต่งถัดไป

1.5 ถ้าพบว่ามีเสียงดังเปลี่ยนไปจากปกติที่รอบๆ สวิทช์ หรือแผงควบคุมกระแสไฟฟ้า อาจเป็นเพราะเนื่องจากหน้าสัมผัส (Contact) ของอุปกรณ์นั้นเกิดความร้อนสูง หรือมีสิ่งเจือปนรอบๆหน้าสัมผัสนั้นให้รีบกระทำปรับปรุงโดยเร่งด่วน

1.6 บางโอกาสบางทีอาจพบว่ามีเสียงคร่ำครวญออกมาจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ ทดลองพิจารณามองว่าบัลลาสต์หละหลวมหรือเปล่า แล้วก็หลอดไฟฟ้าดับๆติดๆบางทีอาจเป็นที่สตาร์ทเตอร์สลายตัว ให้กระทำเปลี่ยนแปลงใหม่ แม้กระนั้นถ้าหากรอบๆขั้วหลอดดำก็ควรจะเปลี่ยนแปลงหลอดใหม่ด้วยเหมือนกัน

1.7 ในระหว่างการกระทำงาน เพื่อความไม่ประมาท ควรจะสวมถุงมือ หรือตัดวงจรที่แหล่งจ่ายกระแสไฟออกก่อน และก็เลือกใช้วัสดุให้สมควรสำหรับการปฏิบัติงานนั้น อย่างเช่น บางทีอาจใช้ไขควงเช็คไฟตรวจสอบว่ารอบๆที่จะปรับปรุงนั้นมีกระแสไฟฟ้าหรือไม่ไม่ควรที่จะทำงานในตอนที่มีไฟฟ้าไหลอยู่

1.8 เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท พวกเราไม่อาจจะกระทำปรับปรุงแก้ไขเองได้ ไม่สมควรเสี่ยงที่จะปฏิบัติงานเองเนื่องจากบางทีอาจกำเนิดข้อผิดพลาด ควรจะให้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญมากระทำปรับแก้

1.9 การปรับปรุงแก้ไขเครื่องไม้เครื่องมือแล้วก็วงจรไฟฟ้า อย่าทำอย่างชุ่ยๆให้ตรวจทานอย่างรอบคอบ รวมทั้งตรึกตรองตามขั้นตอนการที่ได้ศึกษามาอย่างแม่นยำ สิ่งที่จำเป็นควรจะเป็นไปตามหลักหลักเกณฑ์ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคระบุ

บทความจาก เว็บอุปกรณ์ไฟฟ้าอันดับ 1 | apelectric2005